ฮอร์โมนคอร์ติซอล ตัวการลับที่ขัดขวางความสูงในเด็กที่ไม่ควรมองข้าม

ฮอร์โมนคอร์ติซอล ตัวการลับที่ขัดขวางความสูง - คลินิกความสูง

ผู้ปกครองหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า ฮอร์โมนคอร์ติซอล เป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความสูงของลูก หากระดับฮอร์โมนชนิดนี้สูงเกินปกติอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้การเจริญเติบโตของเด็กชะลอลง และส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพในหลายด้าน บทความนี้จะพาผู้ปกครองไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับฮอร์โมนคอร์ติซอล สาเหตุที่ทำให้สูงผิดปกติ สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต และวิธีการจัดการที่เหมาะสม

ฮอร์โมนคอร์ติซอลคืออะไร

คอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต มีหน้าที่ควบคุมการตอบสนองต่อความเครียด ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบ และควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยระดับคอร์ติซอลจะแปรผันตามช่วงเวลาในแต่ละวัน โดยจะสูงสุดในช่วงเช้าตรู่เพื่อช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและพร้อมรับมือกับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงและต่ำสุดในช่วงกลางคืนเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน

ความสัมพันธ์ระหว่างฮอร์โมนคอร์ติซอลกับการเจริญเติบโต

เมื่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายสูงอย่างเรื้อรัง จะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อระบบการเจริญเติบโตของเด็กในหลายแนวทาง

การยับยั้งฮอร์โมนการเจริญเติบโต

ฮอร์โมนคอร์ติซอลระดับสูงจะยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) จากต่อมใต้สมอง นอกจากนี้ยังลดความไวของเนื้อเยื่อต่อฮอร์โมนการเจริญเติบโต ทำให้แม้จะมีฮอร์โมนการเจริญเติบโตอยู่ในกระแสเลือด แต่เซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ก็ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบต่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

ฮอร์โมนคอร์ติซอลระดับสูงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายประการที่ส่งผลต่อความสูง

ผลต่อกระบวนการสร้างกระดูก ฮอร์โมนคอร์ติซอลขัดขวางการสังเคราะห์โปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกใหม่ และลดการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกมีความหนาแน่นลดลง การเจริญเติบโตของกระดูกชะลอ และเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในระยะยาว

ผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ การลดลงของการสังเคราะห์โปรตีนยังส่งผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อไม่เพิ่มขึ้นตามที่ควรจะเป็นในวัยเจริญเติบโต

ช่วงวัยที่เสี่ยงสูงสุด

วัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากฮอร์โมนคอร์ติซอลระดับสูง คือช่วงก่อนเข้าสู่วัยรุ่น หรือประมาณอายุ 9-12 ปี หากในช่วงนี้มีการรบกวนจากฮอร์โมนคอร์ติซอลระดับสูง จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อความสูงสูงสุดที่เด็กจะสามารถเติบโตได้

สาเหตุหลักที่ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงในเด็ก

การที่ระดับคอร์ติซอลในเด็กสูงเกินปกติมักมาจากปัจจัยหลายด้านที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในระยะยาวได้ มีดังนี้

ความเครียดจากการเรียนและสิ่งแวดล้อม 

แรงกดดันทางการเรียนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กไทยมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเรื่องคะแนนสอบ ความคาดหวังสูงจากผู้ปกครอง การเรียนพิเศษหลายวิชา หรือการเลี้ยงดูแบบเคร่งเครียด นอกจากนี้ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น ความรุนแรงในครอบครัว การเปลี่ยนแปลงในครอบครัว หรือการได้รับสื่อที่ไม่เหมาะสมกับวัย ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น

ปัญหาการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ 

เด็กนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีคุณภาพการนอนที่ไม่ดี จะทำให้จังหวะการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลผิดปกติ โดยปกติแล้วฮอร์โมนคอร์ติซอลควรจะลดลงในช่วงกลางคืน แต่หากเด็กนอนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

โรคประจำตัวและการใช้ยา 

มีหลายสภาวะทางการแพทย์ที่สามารถทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงผิดปกติ ได้แก่

  • โรคทั่วไป เช่น เครียดเรื้อรัง ภาวะซึมเศร้าในเด็ก
  • โรคที่ทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอลมากผิดปกติ เช่น โรคคุชชิง (Cushing’s syndrome) ที่เกิดจากเนื้องอกต่อมใต้สมองหรือเนื้องอกต่อมหมวกไต กระตุ้นให้สร้างคอร์ติซอลเกิน
  • โรคทางพันธุกรรม เช่น ภาวะ congenital adrenal hyperplasia (CAH) ที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการสร้างคอร์ติซอล
  • การใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เช่น ยารักษาหอบหืดหรือผื่นแพ้ ที่ใช้ในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานต่อเนื่อง อาจทำให้ระดับคอร์ติซอลในร่างกายสูงเกินไป

สัญญาณเตือนว่าลูกมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงเกินไป

การสังเกตสัญญาณเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้พ่อแม่สามารถตรวจพบปัญหาและหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตอย่างถาวร โดยสัญญาณเหล่านี้จะปรากฏได้ทั้งร่างกาย จิตใจ และพัฒนาการ ดังนี้

อาการทางร่างกายที่สังเกตได้

  • การเจริญเติบโตผิดปกติ ความสูงเพิ่มช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ไม่เข้าสู่ช่วง Growth Spurt ตามวัยที่กำหนด หรือส่วนสูงต่ำกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ควรจะอยู่
  • การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักและรูปร่าง น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำตัวส่วนกลาง ผิวหนังบางลงผิดปกติ มีรอยแตกลายสีแดง ๆ บริเวณขาหนีบ หน้าท้อง หรือรักแร้
  • อาการทั่วไป เหนื่อยง่ายผิดปกติ มีอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ป่วยบ่อย ๆ หรือหายช้า

การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมและอารมณ์

เด็กที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงมักจะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมที่ชัดเจน อาทิ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ มีอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าเกินวัย สมาธิสั้นลง จำได้ไม่ดี เฉื่อยชาหรือไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบ

ปัญหาการนอนหลับ นอนหลับยาก ตื่นกลางคืนบ่อย หรือนอนไม่ลึกผิดปกติ

พฤติกรรมทางอาหาร เบื่ออาหารหรือกลับกัน กินมากผิดปกติ โดยเฉพาะมีความต้องการอาหารหวานและเค็มมากกว่าปกติ

วิธีลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในเด็กอย่างธรรมชาติ

แนวทาง

รายละเอียด

การจัดการความเครียดและการพักผ่อน

– จำกัดการบ้านหรือกิจกรรมที่ทำให้เด็กเครียดเกินไป
– ส่งเสริมการนอนหลับ 9 – 11 ชั่วโมงต่อวัน
– ฝึกหายใจลึก ๆ
– สนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความมั่นใจและความสุขเพื่อลดความวิตกกังวล เช่น เล่นดนตรี, เรียนศิลปะ เป็นต้น

โภชนาการที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนคอร์ติซอล

– หลีกเลี่ยงของกินที่มีน้ำตาลสูงและอาหารขยะ
– รักษาสมดุลน้ำตาลในเลือดโดยทานอาหารครบถ้วนสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม

– เพิ่มอาหารที่มีโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน
– เพิ่มแร่แมกนีเซียม เช่น ถั่ว เมล็ดฟักทอง
– เพิ่มวิตามินบีจากกล้วยและผักใบเขียว

กิจกรรมออกกำลังกายที่เหมาะสม

– ออกกำลังกายระดับเบาถึงกลาง เช่น ว่ายน้ำ, โยคะ, เดินเร็ว วันละ 30–60 นาที
– หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในตอนเย็นหรือดึกเพราะอาจเพิ่มคอร์ติซอลและรบกวนการนอน

เมื่อไหร่ที่ผู้ปกครองควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ผู้ปกครองสามารถป้องกันผลกระทบระยะยาวที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยเด็กที่ยังมีโอกาสในการปรับปรุงและฟื้นฟูได้ดี หากพ่อแม่สังเกตเห็นสัญญาณเตือนหลายข้อพร้อมกันตามข้อเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

เกณฑ์การประเมินที่ต้องพบแพทย์

ผู้ปกครองควรนำเด็กไปพบแพทย์เฉพาะทางเมื่อพบสัญญาณเหล่านี้

ด้านการเจริญเติบโต ความสูงหยุดเพิ่มอย่างชัดเจนนานกว่า 6 เดือน ส่วนสูงต่ำกว่าเปอร์เซ็นไทล์ 3 ของเด็กไทย หรือไม่เข้าสู่ช่วงเจริญเติบโตเร็วตามวัยที่กำหนด

ด้านร่างกายและพฤติกรรม น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ มีอาการทางร่างกายหลายข้อพร้อมกัน อารมณ์แปรปรวนเรื้อรัง หรือมีปัญหาทางจิตใจร่วมด้วย เช่น ซึมเศร้าหรือวิตกกังวลรุนแรง

ด้านการใช้ยา เด็กที่ต้องใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

การตรวจวินิจฉัยระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล

แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยผ่านการตรวจเลือดหลายประเภท ได้แก่ การตรวจระดับ Serum Cortisol ทั้งในช่วงเช้าและเย็น การตรวจ ACTH เพื่อดูการทำงานของต่อมใต้สมอง การตรวจ IGF-1 และ GH Stimulation Test เพื่อประเมินฮอร์โมนการเจริญเติบโต รวมถึงการประเมินอายุกระดูก (Bone Age) เพื่อดูศักยภาพการเจริญเติบโตที่เหลืออยู่

แนวทางการรักษาและติดตาม

การรักษาจะเน้นไปที่การปรับปรุงพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ร่วมกับการติดตามการเจริญเติบโตทุก 3-6 เดือน หากมีการใช้ยาที่เป็นสาเหตุ แพทย์จะพิจารณาปรับลดขนาดยาหรือเปลี่ยนชนิดยาที่เหมาะสม ในกรณีที่เกิดจากโรคอื่น ๆ จะต้องรักษาโรคต้นเหตุควบคู่ไปด้วย

การป้องกันและดูแลฮอร์โมนคอร์ติซอลเพื่อความสูงที่เหมาะสม

ฮอร์โมนคอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ร่างกายต้องการในการตอบสนองต่อความเครียดและรักษาสมดุลร่างกาย แต่หากมีระดับสูงเกินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเด็กวัยเจริญเติบโต จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความสูงและการพัฒนาโดยรวม การป้องกันที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการจัดการความเครียดในชีวิตประจำวัน การส่งเสริมการนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพ การดูแลโภชนาการที่เหมาะสม และการออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสมกับวัย ที่สำคัญคือการสังเกตสัญญาณเตือนและปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น

หากผู้ปกครองยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของลูก หรือต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการดูแลความสูงในเด็ก สามารถปรึกษาที่เมดิก้า เซ็นเตอร์ เพิ่มความสูง ซึ่งมีประสบการณ์ดูแลและออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลด้านการส่งเสริมความสูงในเด็กมากว่า 1,000 ราย ตลอดระยะเวลา 20 ปี ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่จะช่วยวิเคราะห์สาเหตุและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กแต่ละคน

อ้างอิง (References – APA Style)

  1. Charmandari, E., Tsigos, C., & Chrousos, G. (2005). Endocrinology of the stress response. Annual Review of Physiology, 67, 259–284.
  2. Takahashi, Y., Kipnis, D. M., & Daughaday, W. H. (1968). Growth hormone secretion during sleep. Journal of Clinical Investigation, 47(9), 2079–2090.
  3. McEwen, B. S. (2007). Physiology and neurobiology of stress and adaptation: central role of the brain. Physiological Reviews, 87(3), 873–904.
  4. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. (2565). คู่มือแนวทางการดูแลภาวะเจริญเติบโตผิดปกติในเด็ก. กรมการ แพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

 


อ่านรีวิวคอร์สเพิ่มความสูงของ “เมดิก้าเซ็นเตอร์” ได้ที่นี่

อยากสูง…ปรึกษาเราได้

เมดิก้า เซ็นเตอร์ (Medica Center) เพิ่มโอกาสสูง ปรับบุคลิกภาพให้ดูดีและสูงขึ้นเห็นผลทันทีในครั้งแรก!! ที่ใช้เทคนิคการเพิ่มความสูงด้วยวิธีการทางการแพทย์ ไม่ต้องเข้าผ่าตัด แต่เป็นการเพิ่มความสูงด้วยการทำกายภาพ เมดิก้าเซ็นเตอร์ใช้หลักการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลักใหญ่ในการกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกอ่อน รวมถึงการปรับโครงสร้างของร่างกายเพื่อเพิ่มบุคลิกภาพให้สง่าและดูดี เพิ่มโอกาสสูงได้สูงสุดทันที 1-5 cm. ผลจริง ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ทุกขั้นตอนได้รับการดูแลและให้คำปรึกษาจากแพทย์และทีมงานผู้ชำนาญการประสบการณ์ด้านการปรับบุคลิกภาพเพิ่มโอกาสสูงมายาวนานมากกว่า 15 ปี สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุที่เลยวัยพัฒนาการทางร่างกายแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง ความปรารถนาที่จะมีส่วนสูงในฝันนั้นอาจจะอยู่ใกล้กว่าที่คุณคาดคิด

ที่ตั้ง : 2358 ชั้น 4 ถ.สุขุมวิท แขวง บางจาก เขต พระโขนง กรุงเทพ

 


เนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจ