คำถามที่ว่า “เล่นเวททำให้เตี้ยจริงไหม” เป็นข้อกังวลที่หลายครอบครัวตั้งคำถามมานาน โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกสูงขึ้น แต่กลัวว่าหากลูกออกกำลังกายด้วยการเล่นเวทจะไปขัดขวางการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ความเชื่อนี้อาจส่งผลให้เด็กหลายคนพลาดโอกาสในการสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความเข้าใจและล้างความเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์ พร้อมแนะนำวิธีการเล่นเวทที่ถูกต้อง ปลอดภัย และส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม
ความเชื่อที่ทำให้เกิดคำถามว่า “เล่นเวททําให้เตี้ยจริงไหม”
ความเชื่อที่ว่าเล่นเวททําให้เตี้ยจริงไหม มีรากฐานมาจากการสังเกตว่านักกีฬายกน้ำหนักมืออาชีพส่วนใหญ่มีรูปร่างเตี้ยและกะทัดรัด จนทำให้เกิดการเชื่อมโยงที่ผิดพลาดว่าการยกน้ำหนักคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีส่วนสูงน้อย
แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม รูปร่างเตี้ยกะทัดรัดเป็นข้อได้เปรียบทางกายภาพตามธรรมชาติของบุคคลนั้นตั้งแต่เกิด ผู้ที่มีส่วนสูงน้อยกว่ามักมีแขนขาที่สั้นกว่า ทำให้แรงกดที่กระดูกและข้อต่อน้อยกว่า เหมาะกับการแข่งขันยกน้ำหนัก นี่เองจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่มีรูปร่างแบบนี้ถึงมักเลือกเข้ามาเล่นกีฬายกน้ำหนักและประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าการยกน้ำหนักทำให้พวกเขามีส่วนสูงน้อยลงแต่อย่างใด เราจึงต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่า “คนที่มีส่วนสูงน้อยเลือกเล่นกีฬายกน้ำหนัก” ไม่ได้หมายความว่า “การเล่นกีฬายกน้ำหนักทำให้มีส่วนสูงน้อย” ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ไขข้อข้องใจเล่นเวททําให้เตี้ยจริงไหม ?
“การเล่นเวทไม่ได้ทำให้เตี้ย” หากทำอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับวัย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยสมัยใหม่ยืนยันว่าโปรแกรมยกน้ำหนักที่มีการควบคุมอย่างเหมาะสมไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็กและวัยรุ่น แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง รู้จักเลือกน้ำหนักที่เหมาะสม และฝึกภายใต้คำแนะนำที่เหมาะสม อีกทั้งยังต้องควบคู่ไปกับการดูแลเรื่องโภชนาการและการพักผ่อนด้วยนั่นเอง
งานวิจัยของ Robert M. Malina นักวิจัยและศาสตราจารย์ในภาควิชามานุษยวิทยา และภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยเทกซัสที่ออสติน (University of Texas at Austin) ได้สรุปข้อมูลจากการศึกษาหลายชิ้นว่า โปรแกรมยกน้ำหนักในเด็กและวัยรุ่นที่ได้รับการออกแบบและควบคุมอย่างเหมาะสมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะส่วนสูงและน้ำหนัก แถมยังพบว่าอัตราการบาดเจ็บจากการฝึกอย่างถูกวิธีนั้นต่ำมาก
อายุที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มเล่นเวท
การเริ่มยกน้ำหนักควรมีความเหมาสมกับพัฒนาการทางร่างกาย:
วัย 7-10 ปี: เน้นการเล่นบอดี้เวท (Bodyweight Exercises) เช่น วิดพื้น สควอท แพลงก์ โดยไม่ใช้น้ำหนักเพิ่ม เพื่อฝึกการควบคุมร่างกายและสร้างกล้ามเนื้อพื้นฐาน
วัย 11-14 ปี: สามารถเริ่มใช้น้ำหนักเบา ๆ ได้ โดยเน้นเทคนิคที่ถูกต้องมากกว่าน้ำหนักที่ยก ควรมีผู้ฝึกสอนหรือผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด
วัย 15 ปีขึ้นไป: สามารถเพิ่มน้ำหนักได้มากขึ้นตามความพร้อมของร่างกาย แต่ยังคงต้องระมัดระวังและฝึกอย่างถูกวิธี
7 วิธีเล่นเวทให้ปลอดภัย
- วอร์มอัพและยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังเวท : ควรให้ความสำคัญกับการวอร์มอัพและยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังฝึกเวทโดยวอร์มอัพอย่างน้อย 10-15 นาที เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- ฝึกบอดี้เวท (bodyweight exercises) : เพื่อให้กล้ามเนื้อกลุ่มหลักแข็งแรงและควบคุมการเคลื่อนไหวได้ดี โดยการวิดพื้น เสริมกล้ามเนื้ออกและแขน, สควอท สร้างกล้ามเนื้อขาและสะโพก, หรือแพลงก์ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว โดยเน้นเทคนิคที่ถูกต้องก่อน หลังจากนั้นค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักยกทีละน้อยตามความเหมาะสมของร่างกาย
- เลือกน้ำหนักอย่างถูกต้อง : ใช้น้ำหนักที่สามารถควบคุมได้อย่างถูกต้อง ไม่หักโหมยกน้ำหนักที่หนักมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงวัยที่แผ่นกระดูกเจริญเติบโตยังไม่ปิด ควรเน้นน้ำหนักเบา-ปานกลาง ทำซ้ำ 12-15 ครั้งต่อเซต
- คำแนะนำผู้เริ่มเล่นมือใหม่ : แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักทีละน้อย เช่น 1.25-2.5 กิโลกรัมต่อครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งการเพิ่มน้ำหนักนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อสามารถทำซ้ำจำนวนที่กำหนดได้ครบเซตและรู้สึกพร้อม โดยฟอร์มท่ายังไม่เสียไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ : เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ รวมทั้งการนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
- รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน : โดยเฉพาะโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันดี ซึ่งช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและกระตุ้นการเจริญเติบโต
- ทำกิจกรรมเพิ่มความสูงอื่น ๆ ควบคู่กับการเล่นเวท : เช่น โหนบาร์ให้สูง ว่ายน้ำ กระโดดเชือก เพื่อช่วยยืดกระดูกและกระตุ้นฮอร์โมนเจริญเติบโต
อ่านเพิ่มเติม : กระโดดเชือกช่วยอะไร
ตารางออกกำลังกายสำหรับมือใหม่ใน 1 สัปดาห์
วัน | ประเภทกิจกรรม | รายละเอียด | ระยะเวลา |
|---|---|---|---|
จันทร์ | Cardio เบื้องต้น | วันแรกของสัปดาห์ เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน อย่างการปั่นจักรยานหรือวิ่ง โดยอาจจะสลับกับการฝึกบอดี้เวท ที่ระดับปานกลางก่อน | 30-45 นาที |
อังคาร | ยกเวทเพิ่มความแข็งแรง | สร้างกล้ามเนื้อด้วยเครื่องเวทเทรนนิ่งแบบเคเบิลหรือ Cable Crossover เพื่อเผาผลาญไขมันในระยะยาว ให้เน้นกล้ามเนื้อหลัก เช่น ขา, หลัง และแขน | 30 นาที |
พุธ | ยืดเหยียดและฟื้นฟู | ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังการฝึกหนัก โดยให้วิ่งลู่วิ่งเบา ๆ เพื่อลดความตึงเครียดและเพิ่มความยืดหยุ่นในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย | 20-30 นาที |
พฤหัสบดี | Cardio ระดับสูง | ปรับมาวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าหรือปั่นจักรยานในระดับความเร็วสูง เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมัน เพื่อผลลัพธืที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแถมยังเพิ่มความท้าทายด้วย | 30-45 นาที |
ศุกร์ | โยคะเพื่อความยืดหยุ่น | ผ่อนคลายร่างกายด้วยการยืดเหยียด เราขอแนะนำการเล่นโยคะ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นหลังจากฝึกหนักตลอดทั้งสัปดาห์ | 30-40 นาที |
เสาร์ | HIIT เต็มสูบ | ออกกำลังกายแบบ HIIT ด้วยเครื่องเดินวงรีเพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเข้มข้นได้ตามกำลังของแต่ละคน | 25-35 นาที |
อาทิตย์ | Recovery Day | เป็นวันที่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ถัดไป อาจจะเดินเบา ๆ หรือนั่งสมาธิเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดได้ | พักเต็มวัน |
เล่นเวทไม่ทำให้เตี้ย แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี
การยกน้ำหนักไม่ได้ทำให้มีส่วนสูงน้อยลงตามความเชื่อที่ผิดมานาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับวัย ซึ่งรวมถึงการเลือกน้ำหนักที่สามารถควบคุมได้ การวอร์มอัพและคูลดาวน์ที่เพียงพอ การพักผ่อนอย่างเต็มที่ และการรับประทานอาหารที่สมดุล เมื่อปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ร่างกายของเด็กและวัยรุ่นก็จะเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ตามศักยภาพ
ส่งเสริมการเจริญเติบโตด้วยการออกกำลังกายและโภชนาการอย่างเหมาะสม
หากผู้ปกครองต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยและสภาพร่างกายของลูก หรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างเป็นระบบ เมดิก้า เซ็นเตอร์ พร้อมให้คำปรึกษาและประเมินสุขภาพของลูกอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความสูงได้ตามวัย ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการดูแลเด็กและวัยรุ่น ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการของเราสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงความต้องการและความปลอดภัยเป็นสำคัญ
เราเชื่อว่าการเจริญเติบโตที่ดีเกิดจากการดูแลอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโภชนาการ การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ทุกครอบครัวสมควรได้รับข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องเพื่อให้ลูกเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ


อ่านรีวิวคอร์สเพิ่มความสูงของ “เมดิก้าเซ็นเตอร์” ได้ที่นี่
อยากสูง…ปรึกษาเราได้
เมดิก้า เซ็นเตอร์ (Medica Center) เพิ่มโอกาสสูง ปรับบุคลิกภาพให้ดูดีและสูงขึ้นเห็นผลทันทีในครั้งแรก!! ที่ใช้เทคนิคการเพิ่มความสูงด้วยวิธีการทางการแพทย์ ไม่ต้องเข้าผ่าตัด แต่เป็นการเพิ่มความสูงด้วยการทำกายภาพ เมดิก้าเซ็นเตอร์ใช้หลักการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลักใหญ่ในการกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกอ่อน รวมถึงการปรับโครงสร้างของร่างกายเพื่อเพิ่มบุคลิกภาพให้สง่าและดูดี เพิ่มโอกาสสูงได้สูงสุดทันที 1-5 cm. ผลจริง ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ทุกขั้นตอนได้รับการดูแลและให้คำปรึกษาจากแพทย์และทีมงานผู้ชำนาญการประสบการณ์ด้านการปรับบุคลิกภาพเพิ่มโอกาสสูงมายาวนานมากกว่า 15 ปี สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุที่เลยวัยพัฒนาการทางร่างกายแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง ความปรารถนาที่จะมีส่วนสูงในฝันนั้นอาจจะอยู่ใกล้กว่าที่คุณคาดคิด
ที่ตั้ง : 2358 ชั้น 4 ถ.สุขุมวิท แขวง บางจาก เขต พระโขนง กรุงเทพ
เนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจ
ลูกสูงช้ากว่าเพื่อนมีสาเหตุจากอะไร ? ค้นพบแนวทางแก้ไขได้ที่เมดิก้า เซ็นเตอร์
เล่นเวททําให้เตี้ยจริงไหม พร้อมคำแนะนำวิธีเล่นเวทยังไงให้สูงและปลอดภัย
15 ไอเทมเพิ่มความสูง กินอะไรให้สูงใน 711 หาได้ง่าย ๆ ใกล้ตัว
ประโยชน์ของ Zinc (ธาตุสังกะสี) ฮีโร่ลับช่วยเรื่องการเจริญเติบโตในเด็กที่ต้องการพัฒนาความสูง
ประจำเดือนมาเร็ว ทำให้หยุดสูงเร็วจริงไหม มีวิธีเพิ่มความสูงได้อย่างไร
กระดูกปิดแล้วยังสูงได้อีกไหม สูงได้อีกกี่เซนติเมตร ใครเจอปัญหานี้อย่าเพิ่งหมดหวัง
ไขข้อข้องใจเตี้ยกรรมพันธุ์ สูงได้ไหม ? เตี้ยกรรมพันธุ์ทําไงให้สูง มีแนวทางอะไรบ้าง
7 ผลไม้โปรตีนสูง เพิ่มโปรตีนจากธรรมชาติให้ร่างกายทุกวัน
ปรึกษาทีมแพทย์ฟรี คลิกที่นี่