ปัญหาที่เกี่ยวกับกระดูกในเด็กไม่เพียงส่งผลด้านความสูงเท่านั้น แต่ยังส่งผลด้านบุคลิกภาพและการทำกิจกรรมใช้ชีวิตประจำวันของเด็กด้วย โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลังซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญในการค้ำจุนร่างกาย หากปล่อยให้เกิดความผิดปกติจนมีอาการ “กระดูกสันหลังคด” อาจส่งผลร้ายแรงถึงเรื่องการหายใจได้ บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่าอาการนี้คืออะไร เกิดจากอะไร และมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง
กระดูกสันหลังคดคืออะไร ? อาการและสัญญาณเตือนที่ต้องระวัง
กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือ ภาวะที่กระดูกสันหลังมีความโค้งผิดปกติในแนวข้าง (Lateral Curvature) โดยอาจโค้งเป็นรูปตัว “S” หรือ “C” แทนที่จะเป็นแนวตรงตามปกติและมักมีการบิดตัวของกระดูกสันหลังร่วมด้วย เป็นภาวะที่พบได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบมากในเด็กวัยเจริญเติบโตโดยเฉพาะในเด็กหญิง
อาการที่ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้ในเด็ก ประกอบด้วย:
อาการทางร่างกาย
- ไหล่สองข้างสูงไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งยกสูงหรือเอียงลง
- สะโพกเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้การเดินดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ลักษณะหลังโก่ง มีโหนก หรือตัวเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
- เสื้อผ้าไม่พอดีตัว แขนเสื้อหรือชายกระโปรงยาวไม่เท่ากัน
อาการที่ส่งผลต่อสุขภาพ
- ปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะเมื่อยืนหรือนั่งนาน
- เหนื่อยง่าย หายใจลำบากเมื่อออกกำลังกาย
- ความสูงดูเตี้ยกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับเพื่อนวัยเดียวกัน
กระดูกสันหลังคดเกิดจากอะไร และมีกี่ประเภท
เราสามารถแบ่งประเภทของกระดูกสันหลังที่คดเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
- ชนิดไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Scoliosis) : ไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดแต่มักพบมากที่สุดในช่วงวัยรุ่น แบ่งตามช่วงวัยได้ดังนี้
- วัยเด็กเล็ก : อายุ 0 – 5 ปี หากพบความผิดปกติในกลุ่มเด็กวัยนี้ จำเป็นต้องหาความผิดปกติภายในร่างกายส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ความผิดปกติของไต หัวใจ และปอด เป็นต้น
- วัยรุ่น : อายุ 10 – 15 ปี เป็นช่วงวัยที่พบความผิดปกติมากที่สุด เพราะกระดูกของเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีมุมกระดูกที่เพิ่มความคดมากขึ้นได้เร็ว
- วัยผู้สูงอายุ : อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยปัญหาส่วนใหญ่มักมาจากอาการกระดูกสันหลังเสื่อม เนื่องจากกระดูกบริเวณข้อต่อใช้งานมานานจนเสื่อมสภาพ
- ชนิดที่ทราบสาเหตุ : กลุ่มนี้จะเกิดขึ้นกับโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ทำให้กระดูกสันหลังเกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงโรคทางพันธุกรรมต่าง ๆ โดยแบ่งย่อยได้ดังนี้
- ชนิดแต่กำเนิด (Congenital Scoliosis) เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกตั้งแต่ในครรภ์และความผิดปกติของพัฒนาการ ทำให้กระดูกสันหลังผิดรูป
- ชนิดการเจริญเติบโตผิดปกติในช่วงวัยรุ่น เนื่องจากกระดูกสันหลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว หากมีความผิดปกติเล็กน้อยอยู่แล้วอาจทำให้ปัญหาชัดเจนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ชนิดจากโรคความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Neuromuscular Scoliosis) มักพบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Dystrophy) ความผิดปกติของไขสันหลังหรือสมองพิการ ผู้ป่วยจึงไม่สามารถรักษาสมดุลกล้ามเนื้อลำตัวได้
- ชนิดโรคจากความเสื่อมของกระดูกสันหลัง (Degenerative lumbar scoliosis) มักพบในผู้ใหญ่ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังที่ใช้งานหนักติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- ชนิดในผู้ป่วยที่มีโรคทางพันธุกรรม มีประวัติครอบครัวที่เป็นกระดูกสันหลังคด เป็นกลุ่มโรคทางพันธุกรรมที่มีการผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ส่งผลให้เอ็นและโครงสร้างที่ยึดกระดูกอ่อนแอ เช่น โรคท้าวแสนปม (Neurofibromatosis) และโรคมาร์ฟาน (Marfan syndrome)
- ชนิดเกิดจากสาเหตุอื่น (Secondary Scoliosis) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นต่อจากสาเหตุอื่นที่เห็นชัดเจนก่อนหน้านี้ ซึ่งแตกต่างจากชนิดอื่นตามกล่าวมาในข้อแรก ๆ เช่น อุบัติเหตุ การติดเชื้อ หรือเนื้องอก เป็นต้น
นอกจากนี้ท่าทางการนั่งและการยืนที่ผิดปกติ แม้จะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการเกิดกระดูกสันหลังที่คดโก่งงอ แต่สามารถทำให้อาการที่มีอยู่แล้วรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการนั่งเอนหลังเป็นเวลานาน หรือการยืนเอียงตัวไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นประจำ
กระดูกสันหลังคดส่งผลต่อร่างกายอย่างไร
เมื่อกระดูกที่ผิดรูปจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง ได้แก่
ด้านบุคลิกภาพ : หากลักษณะร่างกายไม่สมดุลจะสังเกตได้ชัดเจนอันดับแรก เช่น ไหล่สองข้างสูงไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งยกขึ้นหรือเอียงลง ทำให้สวมเสื้อผ้าไม่พอดีตัวและดูไม่สวยงาม, สะโพกเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้การเดินดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจทำให้ขาดูไม่เท่ากัน รวมถึงลักษณะตัวเอียง หลังโก่งหรือมีโหนก
ด้านระบบต่าง ๆ ในร่างกาย : ทั้งระบบหายใจและการทำงานของหัวใจ หากความคดอยู่ในระดับที่รุนแรง (มุมคดเกิน 90 องศา) จะทำให้เกิดการบิดหมุนของกระดูกสันหลังและซี่โครงจนกดเบียดปอด ส่งผลให้ปอดขยายตัวได้น้อยลงทำให้หายใจลำบากและเหนื่อยง่าย รวมถึงอาจทำให้หัวใจทำงานหนักจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ในระยะยาว
นอกจากนี้บางคนยังมีอาการปวดหลังเรื้อรัง เนื่องจากการกระจายน้ำหนักไม่สมดุลกัน จึงเกิดความเครียดที่กล้ามเนื้อและข้อกระดูก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังเรื้อรังได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และอาจมีภาวะเสื่อมของกระดูกสันหลังร่วมด้วย
ด้านความสูง : กระดูกสันหลังที่คดอาจทำให้ผู้ป่วยดูตัวเตี้ยกว่ามาตรฐาน เพราะเสียสมดุลของลำตัว หากเกิดความคดระดับรุนแรงอาจทำให้ความสูงจริงลดลง เนื่องจากแนวกระดูกสันหลังสั้นลง
กระดูกสันหลังคดหายได้ไหม มีวิธีรักษาอย่างไร
การรักษาขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยและระดับความรุนแรงของมุมกระดูกแต่ละส่วนที่คด ซึ่งไม่สามารถหายขาดเองได้ แต่สามารถควบคุมและชะลอความคดให้คงที่ ลดความเจ็บปวดหรือปรับให้ดีขึ้นได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม โดยมีวิธีรักษาหลายดังนี้
วิธีรักษา | รายละเอียดเกณฑ์การใช้ | เกณฑ์การรักษา |
สังเกตอาการ (Observe) | เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีกระดูกคดน้อยกว่า 20 องศา ไม่มีอาการปวดหรือผิดปกติรุนแรง | แพทย์จะนัดติดตามอาการและตรวจเอกซ์เรย์เป็นระยะ ๆ |
ใส่อุปกรณ์เสริม (Brace / Orthosis) | เหมาะกับเด็กที่ยังเจริญเติบโตและกระดูกมีความคดมากกว่า 20 องศาขึ้นไป | เพื่อป้องกันไม่ให้คดเพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถทำให้หายคดได้ ต้องใส่เสื้อเกราะ (Brace) เป็นเวลานาน 23 ชั่วโมง/วัน จนกระดูกหยุดโต |
กายภาพบำบัด | ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อแกนกลาง (core muscle) เพื่อพยุงกระดูกสันหลัง ลดอาการปวดและปรับท่าทาง ร่วมกับออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง | ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการทำกายภาพบำบัด |
การผ่าตัด (Spinal Fusion Surgery) | กรณีที่มีความคดมากกว่า 40-50 องศา หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปวดมาก, เดินลำบาก หรือคดเพิ่มขึ้นไม่หยุดหลังรักษาด้วยวิธีอื่น | แพทย์จะทำการผ่าตัดเชื่อมกระดูกสันหลังและใส่โลหะดามเพื่อให้กระดูกตรงขึ้น |
การดูแลตัวเองสำหรับผู้เป็นกระดูกสันหลังคด
การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยควบคุมอาการและป้องกันไม่ให้ภาวะแย่ลง เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นและลดผลกระทบที่รุนแรงจากโรคนี้ได้ เพียงทำตามคำแนะนำเหล่านี้
ท่านอนที่เหมาะสม : ควรนอนหงายบนที่นอนที่มีความแน่นพอสมควร ไม่ยุบตัวมากเกินไป เพื่อพยุงแนวกระดูกสันหลังให้ดี รวมถึงหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ ซึ่งอาจเพิ่มความโค้งของกระดูกสันหลัง
การออกกำลังกาย : แนะนำให้ออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลัง รวมถึงแกนกลางลำตัว เช่น โยคะ, พิลาทิส, และว่ายน้ำ ฯลฯ จะช่วยลดอาการปวดและป้องกันไม่ให้ความคดเพิ่มรุนแรง
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 7 วิธีออกกำลังกายเพิ่มความสูง
หลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง : หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง ซึ่งจะเพิ่มภาระต่อกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อ, หลีกเลี่ยงท่าทางที่เอียงตัวซ้ำ ๆ นั่งหลังค่อมหรือยืนนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยนท่า สุดท้ายควรหลีกเลี่ยงการบิดตัวหรือเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเกินไป เพราะกล้ามเนื้อที่รองรับหลังคดอาจบาดเจ็บได้ง่าย
ความสำคัญของการดูแลเฉพาะทางด้านการเจริญเติบโต
เรียกได้ว่าช่วงวัยรุ่นนั้นเป็นช่วงที่พบกระดูกสันหลังคดได้บ่อยกว่าช่วงวัยอื่น ดังนั้นการรักษาที่เหมาะสมและการดูแลอย่างถูกวิธีก็จะสามารถควบคุมและป้องกันอาการไม่ให้แย่ลงได้ ผู้ปกครองจึงต้องหมั่นสังเกตหากสงสัยว่าลูกหลานมีอาการผิดปกติของกระดูกสันหลัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการวินิจฉัย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับความสูงและปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ
ทางเมดิก้า เซ็นเตอร์ พร้อมให้คำปรึกษาเบื้องต้นสำหรับน้องคนไหนที่คิดว่าความสูงไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือมีภาวะแทรกซ้อน เรามีโปรแกรมการดูแลที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กแต่ละคน รวมถึงการประเมินและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในช่วงเวลาที่สำคัญของการเจริญเติบโต
เอกสารอ้างอิง
- Weinstein, S. L., Dolan, L. A., Cheng, J. C. Y., Danielsson, A., & Morcuende, J. A. (2008). Adolescent idiopathic scoliosis. The Lancet, 371(9623), 1527–1537.
- Hresko, M. T. (2013). Clinical practice: Idiopathic scoliosis in adolescents. The New England Journal of Medicine, 368(9), 834–841.
- Negrini, S., et al. (2018). 2016 SOSORT guidelines: Orthopaedic and rehabilitation treatment of idiopathic scoliosis during growth. Scoliosis and Spinal Disorders, 13, 3.
อ่านรีวิวคอร์สเพิ่มความสูงของ “เมดิก้าเซ็นเตอร์” ได้ที่นี่
อยากสูง…ปรึกษาเราได้
เมดิก้า เซ็นเตอร์ (Medica Center) เพิ่มโอกาสสูง ปรับบุคลิกภาพให้ดูดีและสูงขึ้นเห็นผลทันทีในครั้งแรก!! ที่ใช้เทคนิคการเพิ่มความสูงด้วยวิธีการทางการแพทย์ ไม่ต้องเข้าผ่าตัด แต่เป็นการเพิ่มความสูงด้วยการทำกายภาพ เมดิก้าเซ็นเตอร์ใช้หลักการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลักใหญ่ในการกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกอ่อน รวมถึงการปรับโครงสร้างของร่างกายเพื่อเพิ่มบุคลิกภาพให้สง่าและดูดี เพิ่มโอกาสสูงได้สูงสุดทันที 1-5 cm. ผลจริง ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ทุกขั้นตอนได้รับการดูแลและให้คำปรึกษาจากแพทย์และทีมงานผู้ชำนาญการประสบการณ์ด้านการปรับบุคลิกภาพเพิ่มโอกาสสูงมายาวนานมากกว่า 15 ปี สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุที่เลยวัยพัฒนาการทางร่างกายแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง ความปรารถนาที่จะมีส่วนสูงในฝันนั้นอาจจะอยู่ใกล้กว่าที่คุณคาดคิด
ที่ตั้ง : 2358 ชั้น 4 ถ.สุขุมวิท แขวง บางจาก เขต พระโขนง กรุงเทพ
เนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจ
ฮอร์โมนคอร์ติซอล ตัวการลับที่ขัดขวางความสูงในเด็กที่ไม่ควรมองข้าม
นาฬิกาชีวิต เข็มทิศสุขภาพที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตในเด็ก
ปรับบุคลิกภาพเด็ก พัฒนาความมั่นใจ พร้อมเสริมสร้างความสูงเด็ก
ไหล่ห่อ คอยื่น หลังค่อม เกิดจากอะไร พร้อมแนะนำท่ายืดกล้ามเนื้อ วิธีแก้ที่เห็นผล
กระดูกสันหลังคดหายได้ไหม ส่งผลกับร่างกายอย่างไร พร้อมวิธีแก้ไข
แคลเซียม คืออะไร ? แคลเซียมเพิ่มความสูงได้จริงไหม ?
8 อาชีพในฝัน สัมพันธ์กับความสูงและบุคลิกภาพ พร้อมวิธีเพิ่มความสูงให้ถึงเกณฑ์
อายุกระดูก คืออะไร ? ความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
ปรึกษาทีมแพทย์ฟรี คลิกที่นี่