เด็กติดโทรศัพท์ ผลกระทบต่อการเจริญเติบโต พ่อแม่อย่าชะล่าใจ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาร์ตโฟนกับเด็กยุคใหม่กลายเป็นของคู่กันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ในมุมความทันสมัยคือเรื่องดีที่ลูกได้เรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ แต่อีกด้านหนึ่งหากเด็กติดโทรศัพท์มากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึง “ความสูง” ด้วยเหตุนี้หากพ่อแม่เริ่มสังเกตพฤติกรรมของลูกว่ากลายเป็นเด็กติดจอ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด และควรรีบหาวิธีแก้โดยเร็วที่สุด!

พฤติกรรมเด็กติดโทรศัพท์เป็นอย่างไร ?

ก่อนจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลเสียของปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ ลองมารู้วิธีสังเกตพฤติกรรมลูกกันสักนิด หากพวกเขาเริ่มมีลักษณะตามที่จะอธิบายต่อไปนี้อาจบ่งบอกได้ว่ากำลังเข้าสู่ภาวะเด็กติดมือถือ

• ไม่สนใจทำกิจกรรมอื่น แม้พ่อแม่จะบอกหรือพยายามบังคับก็ตาม
• ไม่ค่อยทำในสิ่งที่ตนเองชอบเหมือนเดิม เช่น ไม่เล่นดนตรี ไม่วาดรูป ทั้งที่เคยทำเป็นประจำ
• ขาดความรับผิดชอบ เช่น ไม่ทำการบ้าน ไม่ทำงานบ้านตามที่เคยตกลงหรือได้รับหน้าที่
• มักหยิบมือถือขึ้นมาเล่นตลอด ควบคุมเวลาการเล่นมือถือของตนเองไม่ได้
• มีอาการหงุดหงิด ขี้โมโหง่าย และบางครั้งอาจใช้อารมณ์รุนแรง

ผลเสียของปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ ส่งผลเสียมากกว่าที่คิด

แม้ยุคนี้การใช้มือถือจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กรุ่นใหม่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มกลายเป็นเด็กติดโทรศัพท์ย่อมส่งผลเสียในหลายด้าน ประกอบไปด้วย

1.ส่งผลเสียโดยตรงต่อดวงตา

โดยเฉพาะในเด็กอายุยังน้อย การใช้สายตากับหน้าจอมือถือมากเกินไปแสงสีฟ้าที่เปล่งออกมาสามารถทำลายจอประสาทตาให้เสื่อมเร็วกว่าปกติ รวมถึงสายตาสั้น สายตาเอียง โรคตาเข โรคตาขี้เกียจ หรือโรคเกี่ยวกับดวงตาอื่น ๆ เพราะเด็กวัยนี้ดวงตาและระบบประสาทดวงตายังบอบบาง จึงเกิดผลกระทบได้ง่ายหากใช้งานมากเกินไป

2. พัฒนาการด้านการสื่อสารช้าลง ขาดมนุษยสัมพันธ์

ด้วยพฤติกรรมเด็กติดจอมักทำให้เขาไม่สนใจกับสิ่งรอบข้าง ขาดการทำกิจกรรมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ส่งผลต่อพัฒนาการด้านการสื่อสาร เพราะตามธรรมชาติเด็กมักเรียนรู้การพูด การแสดงออกต่าง ๆ จากพฤติกรรมของพ่อแม่ เช่น สังเกตรูปปาก ทำความเข้าใจด้านการเปล่งเสียงเป็นคำพูด สังเกตอารมณ์ที่แสดง รวมถึงเริ่มไว้วางใจคนที่อยู่ใกล้ชิดหรือเห็นหน้าบ่อย พยายามมีมนุษยสัมพันธ์ด้วย ดังนั้นหากลูกเล่นแต่มือถือจึงขาดการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ และส่งผลเสียในระยะยาวทั้งการสื่อสารไม่เป็นไปตามวัยและขาดทักษะการเข้าสังคมที่ดี

3. ส่งผลต่อการเติบโตทางร่างกาย

อีกปัญหาที่พ่อแม่มักพบเจอเมื่อเด็กติดมือถือนั่นคือพวกเขาจะไม่ค่อยยอมนอน นอนดึก เพราะยังรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ตนเองดู ยิ่งถ้าครอบครัวไหนไม่ยอมบังคับลูกให้รีบเข้านอนแถมยังเล่นมือถือก่อนนอนแบบไม่พัก ผลเสียต่อการเติบโตทางร่างกายจะเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้น โรคเกี่ยวกับดวงตา ปวดศีรษะบ่อย ขนาดสมองเล็กลง IQ ต่ำกว่ามาตรฐาน ขาดจินตนาการหรือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ พักผ่อนน้อย ภูมิคุ้มกันทำงานไม่ดี เจ็บป่วยง่าย และที่สำคัญคือ โกรธฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนช่วยด้านการเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่อเรื่องความสูงชัดเจน จึงพอบ่งบอกได้ว่าเด็กติดโทรศัพท์อาจมีความสูงน้อยกว่าที่ควรเป็น

4. พฤติกรรมก้าวร้าว ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย

อีกปัญหาใหญ่ของเด็กติดจอนั่นคือพัฒนาการด้านอารมณ์ เด็กมักมีความเอาแต่ใจมากขึ้น เริ่มแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย หรืออาจหลุดพูดคำหยาบคายออกมา นั่นเพราะพวกเขารู้สึกว่าเวลาอยู่กับมือถือหากต้องการอะไรเพียงแค่กด แค่ค้นหาก็เจอทันที แต่พอต้องมาทำสิ่งต่าง ๆ ในโลกความเป็นจริงแล้วเจอปัญหา อุปสรรค กลับไม่สามารถหาวิธีแก้ได้รวดเร็วทันใจจึงแสดงอาการไม่น่ารักเหล่านั้นออกมาและอาจติดเป็นนิสัยที่ไม่ดีในระยะยาวได้

5. ขาดการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวร่างกาย

ทุกคนรู้ดีว่าการออกกำลังกายเป็นประจำย่อมช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ยิ่งถ้าในวัยเด็กด้วยแล้วหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กระดูกและอวัยวะจะสามารถเติบโตได้เต็มที่ อีกทั้งยังส่งผลให้เด็กสูงขึ้นได้จากการกระโดด การเล่นกีฬาหลายประเภท เช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล แต่ถ้าเมื่อไหร่ลูกมีพฤติกรรมเป็นเด็กติดมือถือการทำกิจกรรมดังกล่าวมักหายไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง

แก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ ทำได้อย่างไรบ้าง?

หากพ่อแม่คนไหนกำลังกังวลใจกับลูกของตนเอง หรือเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมเป็นเด็กติดโทรศัพท์ ลองนำแนวทางแก้ปัญหาที่จะแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้กันเลย

• กำหนดช่วงเวลาการเล่นมือถือให้ชัดเจน ใน 1 วัน เล่นได้กี่ชั่วโมง หรือเล่นได้เฉพาะช่วงเวลาใดบ้าง
• พยายามหากิจกรรมอื่นเข้ามาทดแทนการเล่นมือถือโดยพ่อแม่มีส่วนร่วม เช่น เล่นบอร์ดเกม ทำสวน เล่นดนตรี เล่นกีฬา ฯลฯ
• ต้องรู้จักบังคับลูก มีบทลงโทษที่เหมาะสมหากเด็กไม่ทำตาม เพื่อลดปัญหาเด็กติดจอ
• พ่อแม่ทำตัวอย่างที่ดีให้กับลูกโดยไม่หยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ่อย ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา
• อย่าเก็บมือถือไว้ในห้องนอน หรือควรเก็บในจุดที่ลูกไม่สามารถหยิบได้ป้องกันการแอบนำมาเล่น

ปรับบุคลิกภาพ เพิ่มโอกาสในอนาคตให้ลูกกับเมดิก้า เซ็นเตอร์

นอกจากการทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์แล้ว หากพ่อแม่อยากให้ลูกสูงมากขึ้นเพื่อบุคลิกภาพที่ดี มีโอกาสต่าง ๆ มากมายที่จะเข้ามาในอนาคต เมดิก้า เซ็นเตอร์ เพิ่มความสูง พร้อมช่วยดูแลทั้งการเพิ่มโอกาสสูงและปรับบุคลิกภาพเด็กให้ดีขึ้น ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี มีรีวิวกว่า 1,000 เคส ดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ปรับโภชนาการอย่างเหมาะสมเพื่อการเติบโตของเด็ก ๆ ทุกคน

อ้างอิง:

https://www.phyathai.com/article/3047-เลี้ยงเด็กแบบตัดรำคาญ__?srsltid=AfmBOoqZuwopI70_Cgur0VHHFA1imK2MQIZ2G_-rR0_B_zutbFDspt7S

https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/165

https://www.sp.ac.th/2024/ผลเสียของการให้ลูกเล่น/

https://www.sikarin.com/health/ลูกติดมือถือหนัก

https://pt.mahidol.ac.th/ptcenter/knowledge-article/screen_time_in_child/